แต่สำหรับสถานีบริการน้องใหม่ในสังกัด 'เชลล์' สาขา อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ของ บริษัท เพชรศรีเจริญ ปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งเปิดให้บริการแค่เพียง 2 ปีเศษ สามารถผงาดขึ้นคว้าตำแหน่งแชมป์อันดับหนึ่งผู้บริหารสถานีบริการระดับโลก - ประเภทบริหารงาน 1-2 สถานี (Global Retailer of the Year 2012 - single site) จากหลักการทำงาน People Make The Difference REAL (PMTDR) ซึ่งเป็นการประกวดสถานีบริการที่ดีที่สุดของเชลล์โกลบอล ประจำปี 2012 จัดขึ้นที่กรุงบาเซโลนา ประเทศสเปน

อะไรคือ เคล็ดลับความสำเร็จ ของสถานีบริการเชลล์สาขาประโคนชัย บนทางหลวงสาย 24 เส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ ที่สามารถเอาชนะสถานีบริการเชลล์เกือบ 3 หมื่นสถานี จาก 65 ประเทศทั่วโลกเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง "แชมป์" ได้ คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่า คุณชิษณุพงศ์ เขษมตระกูล ผู้บริหารสถานีบริการเพชรศรีเจริญ ปิโตรเลียม จ.บุรีรัมย์

"เดิมผมเป็นลูกค้าของเชลล์อยู่แล้ว พอคิดจะลงทุนทำธุรกิจปั๊มน้ำมันก็คิดถึงเชลล์เป็นอันดับแรก เพราะเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเขา ก็เลยติดต่อเข้ามาบอกว่า สนใจจะมาเป็นผู้แทนจำหน่าย เขาก็ดูความตั้งใจจริงของผม โดยถามว่าไปดูงานที่ภูเก็ตได้ไหม ผมก็บอกว่าได้ ก็เลยได้ไปดูงานที่นั่น ซึ่งพอไปถึงก็ประทับใจมาก เพราะเจ้าของปั๊มที่นั่นเป็นคนรุ่นใหม่ จบเมืองนอก ทำงานบนข้อมูล ซึ่งตรงกับความต้องการของผมที่ตั้งใจไว้แต่แรกว่า ถ้าจะทำ ผมจะไม่เป็นเถ้าแก่นั่งเฝ้าหน้าปั๊มอย่างแน่นอน" คุณชิษณุพงศ์ กล่าว   

"เริ่มจากไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นอะไรเลย ก็รู้สึกประทับใจมากเพราะได้รับการดูแลที่ดี มีเทรนนิ่ง เป็นพี่เลี้ยงให้ในทุกเรื่อง เวลามีปัญหาก็สามารถปรึกษาผู้จัดการเขตที่ดูแลได้ตลอด และในหมู่ผู้ประกอบการเองเราก็รวมกลุ่มกัน ติดต่อสื่อสารกันอยู่แล้วด้วย มีอะไรก็เลยปรึกษากัน แนะนำกันได้ตลอด"

หลังจากเซ็ทระบบการทำงานหลังบ้านไว้อย่างแข็งแกร่ง คุณชิษณุพงศ์ ก็เดินหน้าพัฒนางานบริการ สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า โดยแม้จะเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำหรือไม่นั้น เรื่องของความสะดวกสบาย และการให้บริการอย่างเป็นมิตร คือ หัวใจสำคัญ

"ผมตั้งใจให้ปั๊มของเราเป็นเหมือนเซ็นเตอร์พอยท์ เนื่องจากพื้นที่เรามีขนาดใหญ่ จอดรถได้เยอะ ก็เลยมีให้บริการทั้งคาร์แคร์ มินิมาร์ท สวนอาหาร เอาสินค้าโอท็อปมาขาย แล้วก็มีร้านแบล็คแคนยอนมาเปิดที่นี่ด้วย เพื่อให้ครบครันสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม"

เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของที่สาขาประโคนชัยมีด้วยกัน 2 กลุ่ม ในช่วงปกติลูกค้าหลักเป็นรถใหญ่อย่างรถทัวร์ และจะย้ายมาเป็นกลุ่มลูกค้าคนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแทน ซึ่งคุณชิษณุพงศ์ก็ได้วางแผนปรับตัวรับกับกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนไป อย่างเช่น ในช่วงคริสต์มาส หากใครแวะเข้ามาเติมน้ำมันที่นี่ ก็จะได้พบกับพนักงานในชุดซานต้า ซานตี้ พร้อมให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งประดับประดาสถานีให้เข้ากับเทศกาลนั้นๆ เป็นต้น

มร.แกรนท์ แมคเกรเกอร์ ผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ได้ร่วมอธิบายเกี่ยวกับหลักการทำงาน People Make The Difference REAL หรือ PMTDR ว่า ถือเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาการให้บริการ โดยเน้นที่การบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมแก่ลูกค้าในแนวคิด 'ทุกวัน ทุกสถานี เพื่อลูกค้าทุกๆ คน' โดยเป็นโปรแกรมที่จัดขึ้นกับเชลล์ใน 65 ประเทศทั่วโลก มีสถานีที่เข้าร่วมจำนวน 28,000 สถานี

"PMTDR ถือเป็นหลักการทำงานที่ครบถ้วน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงลูกค้า ตั้งแต่การคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ดีที่สุด จากนั้นก็ช่วยให้ตัวแทนฯ สามารถดำเนินธุรกิจไปด้วยดี โค้ชชิง เทรนนิ่ง พัฒนาทักษะ และทำการวัดผลการดำเนินงานในหลายๆ มิติ ทั้งในรายเดือน รายไตรมาส และรายปี เพื่อมอบรางวัลให้กับตัวแทนฯ ที่มีผลประกอบการดีที่สุด ซึ่งจะไล่ระดับไปตั้งแต่ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก" มร.แกรนท์ กล่าว

พร้อมเสริมว่า ในแต่ละปีจัดให้มีการแข่งขันในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก โดยแบ่งออกเป็น 2ประเภท ได้แก่ 1. ประเภทบริหารงาน 1-2 สถานี (Single site)  และ 2. ประเภทบริหารงานมากกว่า 2 สถานี (Multi sites) โดยสถานีสาขาประโคนชัย ของคุณชิษณุพงศ์ นั้นได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภท 1-2 สถานี ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ตัวแทนจากประเทศไทยได้รับรางวัลดังกล่าว

แม้ PMTDR จะเป็นที่มุ่งสร้างความเป็นเลิศของสถานีบริการเชลล์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก แต่ก็ยังมีเกณฑ์เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละประเทศ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้นๆ ด้วยยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย จะถือเอาเรื่องของห้องน้ำ และความสะอาด เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นต้น

แต่หากจะให้วิเคราะห์ถึงเบื้องหลังตำแหน่งแชมป์สดๆ ร้อนๆ ที่สาขาประโคนชัย ของคุณชิษณุพงศ์นั้น มร.  แกรนท์ มองว่า จุดแข็งที่ส่งผลให้ประสบความสำเร็จว่า 'คน' คือหัวใจสำคัญนั่นเอง

ทั้งนี้ ก็เนื่องด้วยแนวคิดบริหารคนอย่างจริงใจ และปรับทัศนคติลบคำว่า 'เด็กปั๊ม' ออกเสีย เพื่อยกระดับสู่การเป็น 'พนักงานบริการ' ตลอดจนสวัสดิการทั้งที่พัก และอาหารฟรีแก่พนักงาน ซึ่งคุณชิษณุพงศ์บอกว่า พนักงานที่นี่แทบไม่ต้องใช้เงินเลยสักบาทเดียว หากรู้จักกินรู้จักใช้ เงินเดือนไม่พร่องเลยก็มี เพราะหากขยันมาทำงานทุกวัน บริการดี ก็จะได้รับทิปจากลูกค้าที่ใช้บริการเติมลม เช็ดกระจก พอเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันได้อีกทางหนึ่ง

เช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ยอดเทิร์นโอเวอร์ของพนักงานที่นี่แทบจะเป็นศูนย์ และเมื่อพนักงานหน้าเก่า อยู่นาน ก็ย่อมจำลูกค้าได้ เมื่อบวกกับการปลูกฝังให้พนักงานใส่ใจลูกค้า จึงสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการซ้ำนั่นเอง

"ถึงแม้วันนี้เราจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยอย่างเราก็ทำได้ สามารถคว้ารางวัลระดับโลกได้ แต่สิ่งที่ผมฝันอยากจะพัฒนาต่อไปให้ดีขึ้น คือ ผมอยากจะไปให้ถึงความรู้สึกของลูกค้าจริงๆ อย่างการที่เราต้องพยายามตกแต่งปั๊มให้เข้ากับเทศกาลต่างๆ อยู่ตลอดนั้น ก็เพราะทุกครั้งที่ลูกค้ามาถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ในปั๊มเรา ในตอนที่เขาย้อนกลับมาดูรูปเก่าๆ เขาก็จะต้องจำปั๊มเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน" คุณชิษณุพงศ์เอ่ยถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในใจ