• ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 ปอร์เช่และเชลล์ วางแผนเปิดสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง 180 กิโลวัตต์ และ 360 กิโลวัตต์ เพื่อครอบคลุมเส้นทางกว่า 2,200 กิโลเมตร นับจากการเดินทางตั้งแต่สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
  • การเดินทางที่ไร้ซึ่งมลพิษจากประเทศสิงคโปร์ จนถึงเชียงใหม่ภาคเหนือของไทย กำลังจะกลายเป็นจริงในไม่ช้า
  • สิทธิพิเศษมากมายสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รายใหม่ รวมถึงส่วนลดค่าบริการชาร์จพลังงาน การเข้าถึงสถานีในฐานะสมาชิกระดับ Platinum และสิทธิในการสำรองจุดชาร์จพลังงานล่วงหน้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • Dual app integration: การใช้งานที่ไร้ซึ่งข้อจำกัดด้านพรมแดน สำหรับนักเดินทางชาวมาเลเซีย และชาวไทย

เมื่อโครงสร้างเครือข่ายเริ่มดำเนินการในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 สถานี HPC ในประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมต่อเพื่อขยายเครือข่ายสถานี HPC ของ Shell ตลอดทั่วทั้งภูมิภาค โดยจะดำเนินงานร่วมกับสถานีอีก 6 แห่งในประเทศมาเลเซีย และ 3 แห่งในสิงคโปร์ เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนที่ตรงกัน พร้อมเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเดินทางด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จุดเริ่มต้นของการกำเนิดเส้นทางปราศจากมลภาวะ ระยะทางมากกว่า 2,200 กิโลเมตร ระหว่างเขตแดน 3 ประเทศในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 800,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นผสานความร่วมมือพันมิตรกันระหว่าง 2 บริษัทระดับโลกอย่างปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) และ เชลล์ (Shell) มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตให้เป็นเส้นทางปลอดมลภาวะที่มีระยะทางไกลที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเดินทางสัญจรได้โดยไร้ข้อจำกัด

Dr. Henrik Dreier (ดร. เฮนริค ไดรเยอร์) ผู้อำนวยการ New Business Fields ของ Porsche Asia Pacific กล่าวว่า “ปอร์เช่ เรายังคงรักษาคำสัญญาในด้านการขับเคลื่อนอนาคตของการคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉกเช่นเดียวกับการยืนยันเจตนารมณ์อย่างต่อเนื่องเรื่องการลดสารประกอบคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ตามความมุ่งมั่นของเรา และความไว้วางใจที่เรามีต่อ Shell ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจนั้น กำลังนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางใหม่ ด้วยการเปิดตัวสถานีชาร์จสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง Shell High Performance Charging ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมาพร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รวมทั้งเครือข่ายการบริการที่มีระยะทางมากกว่า 2,200 กิโลเมตร เราคาดหวังถึงผลประโยชน์สูงสุดที่ผู้ใช้เส้นทางจะได้รับจากการสัญจรทางไกล ตลอดจนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นอีกแรงสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาเลือกใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น”

Amr Adel (อาเมอร์ อเดล) รองประธานกรรมการอาวุโสของ Shell Mobility Asia อธิบายต่อว่า “ผู้ใช้รถ EV ต่างคาดหวังถึงประสบการณ์ด้านการชาร์จพลังงานที่รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงวิธีในการลดมลภาวะที่เกิดจากการขับขี่ยานพาหนะของพวกเขา เมื่อพรมแดนของประเทศต่าง ๆ ในโลกเปิดกว้าง ผู้ใช้รถยนต์จึงเฝ้าค้นหาสถานีชาร์จพลังงานที่สามารถเชื่อถือได้ โดยเฉพาะการเดินทางสัญจรระยะยาวข้ามประเทศ ด้วยเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง HPC สถานีแห่งแรกของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Shell (เชลล์) คือผู้ให้บริการเครือข่ายการบริการสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้ารูปแบบระหว่างประเทศที่แรกในภูมิภาค นี่คือบริการของ Shell Recharge EV network การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ เป็นการประกาศผนึกกำลังและความสำเร็จระหว่างปอร์เช่ และเชลล์ เพื่อขยายการพัฒนาสถานีชาร์จไฟฟ้าสมรรถนะสูง ระหว่างสิงคโปร์ มาเลเซียและเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อตอบรับความต้องการและความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่รถพลังงานไฟฟ้า ทางเชลล์มีความตั้งใจเป็นอย่างสูงในการรับบทบาทสำคัญสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อพลังงานขับเคลื่อนแบบไร้คาร์บอน โดยการร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรและกลุ่มลูกค้า”

ด้วยความร่วมมือดังกล่าว สถานีบริการ Shell จำนวน 11 แห่งในประเทศไทย จะได้รับการติดตั้งจุดชาร์จพลังงานไฟฟ้า DC chargers ขนาด 180 กิโลวัตต์ และ 360 กิโลวัตต์ สำหรับรองรับระบบการชาร์จประสิทธิภาพสูงในประเทศไทย ให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางที่ไร้ซึ่งมลพิษจากจังหวัดสงขลาในเขตภาคใต้ จนถึงจังหวัดเชียงใหม่ในเขตภาคเหนือ เมื่อใช้งานระบบชาร์จขนาด 180 กิโลวัตต์ ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) สามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ 80% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) ในส่วนของการใช้งานระบบชาร์จขนาด 270 กิโลวัตต์ อันเป็นกำลังสูงสุดที่ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) สามารถรองรับได้นั้น จะใช้เวลาลดลงเหลือเพียง 22 นาทีเท่านั้น

นอกจากการส่งเสริมให้เกิดพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากเส้นทางการจราจรที่มีระยะทางไกลกว่า 2,200 กิโลเมตรให้เป็นเส้นทางที่ปราศจากมลภาวะ โดยเริ่มตั้งแต่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย จนมาถึงประเทศไทย ยังเสริมความร่วมมือทางธุรกิจด้านการดูแลลูกค้าส่งมอบสิทธิประโยชน์สุดพิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) อีกด้วย โดยเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) ที่เป็นลูกค้ารายใหม่ในประเทศไทย จะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับสถานะสมาชิกระดับ Platinum โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอด 3 ปี ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวลูกค้าสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดอัตราค่าบริการ Pay-Per-Use (PPU) 50% หรือการสำรองจุดชาร์จล่วงหน้าได้ระยะเวลาสูงสุด 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางมายังสถานี Shell HPC ทุกแห่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และรับคะแนนสะสม Shell GO+ จำนวน 10,000 คะแนน สำหรับแลกรับส่วนลดผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบริการต่าง ๆ ของ Shell

ผู้ใช้งานแอพพลิเคชัน Sharge และ ParkEasy ในประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย จะได้รับประสบการณ์และความสะดวกสบาย ผ่านเทคโนโลยีของแอพพลิเคชันทั้ง 2 ที่ช่วยสนับสนุนการเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง Shell HPC และสถานีชาร์จ Porsche Destination Charging ในทั้ง 2 ประเทศได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยผู้ใช้รถพลังงานไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศไทย สามารถเข้ารับบริการในเครือข่ายสถานี Shell HPC ด้วยอัตราค่าใช้จ่าย Pay-Per-Use (PPU) หรือเลือกสมัครสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษได้

Porsche and Shell charging stations at a glance

Shell charging stations at a glance

เกี่ยวกับ Porsche Asia Pacific Pte Ltd

Porsche Asia Pacific Pte Ltd เป็นบริษัทในเครือของ Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG ในฐานะผู้ผลิตรถสปอร์ตสมรรถนะสูงระดับชั้นนำของโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนี สำหรับยานพาหนะชั้นเลิศซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม 911 นอกจากนั้นปอร์เช่ยังสร้างสรรค์ยนตกรรมสปอร์ตหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) มาคันน์ (Macan) พานาเมร่า (Panamera) 718 บ๊อกสเตอร์ (718 Boxster) และ 718 เคย์แมน (718 Cayman) ในปี 2019 ได้เปิดตัวปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรก

ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2001 ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานในตลาดภูมิภาค เอเซีย แปซิฟิก อย่างใกล้ชิดโดยปอร์เช่สำนักงานใหญ่ มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านของงานบริการ การพัฒนาธุรกิจ การตลาด สื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ รวมทั้งงานขาย ปอร์เช่ เอเซีย แปซิฟิก รับบทบาทในการประสานงานครอบคลุม 13 ประเทศในภูมิภาค ประกอบด้วย: บรูไน, กัมพูชา, เฟรนช์ โปลีนีเซีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, มองโกเลีย, นิว แคลิโดเนีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย และเวียดนาม

เกี่ยวกับ ปอร์เช่ ประเทศไทย

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบัน เอเอเอส กรุ๊ป มีโชว์รูมจัดจำหน่าย 4 แห่งในเขตกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ปอร์เช่ทุกคันที่นำเข้า และจัดจำหน่ายโดย เอเอเอส กรุ๊ป ผ่านการทดสอบตามลักษณะการใช้งานในประเทศไทย และปรับแต่งระบบการทำงานของเครื่องยนต์เป็นพิเศษเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับด้านมลภาวะ คุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง และสภาวะการขับขี่ในประเทศไทย ทีมงานบุคลากรของ เอเอเอสฯ มีความพร้อมทั้งในเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ ตลอดจนเครื่องมือพิเศษ สำหรับดูแลรถยนต์ปอร์เช่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยด้วยความสมบูรณ์แบบ
เอเอเอสฯ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอสฯ ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

เกี่ยวกับ Shell Mobility

มากกว่า 46,000 สถานี ใน 80 ประเทศ Shell คือผู้ให้บริการสำหรับยานพาหนะที่ใหญ่ที่สุดเมื่อนับจากจำนวนสถานีบริการ และเป็นหนึ่งในบริษัท single-branded retailers ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ในทุกวัน มีลูกค้าประมาณ 32 ล้านคน แวะเวียนมารับบริการที่สถานีบริการ Shell เพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง จับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งรวมไปถึงอาหาร และเครื่องดื่มที่สดใหม่ หรือบริการอื่น ๆ อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่น และทำความสะอาดรถยนต์ ในส่วนของการสร้างความเติบโต เรานำเสนอลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ และงานบริการที่ลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น biofuels สถานีชาร์จพลังงานรถยนต์ไฟฟ้า สถานีบริการพลังงาน hydrogen และเชื้อเพลิงทางเลือกหลากหลายชนิด ตัวอย่างเช่น LNG

ในประเทศไทย Shell มีสถานีตั้งอยู่มากกว่า 690 แห่ง (ข้อมูลเดือนสิงหาคม 2022) พร้อมบริการน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง ได้แก่ V-Power และ FuelSave จากหัวจ่าย รวมทั้งอาหาร และเครื่องดื่มมากมายภายในร้านสะดวกซื้อ Shell Select และร้านกาแฟ Shell Café / delicafe’ – รองรับทุกความต้องการของคุณเพื่อโลดแล่นไปบนท้องถนน ไม่ว่าการเดินทางจะยาวไกลเพียงใดสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ

Porsche Asia Pacific

Head of PR & Communications
Brendan Mok
Mobile: +65 9017 9116
Email: brendan.mok@porsche-ap.com

Porsche PR Thailand

Public Relations and Media
อจิณไตย สุดใจ (จูซ) / สุปรีชา เมืองมาหล้า (ดรีม)
Phone: +662 522 6655 ext. 448, 447
E-mail: porschepr@porsche.co.th

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด

ผู้จัดการสื่อสารองค์กร
สุดารัตน์ พีตกานนท์
โทร. +662 2627839
E-mail: sudarat.peetakanont@shell.com