เชลล์ จากปี พ.ศ. 2435 ถึง พ.ศ. 2516

พ.ศ. 2435 – 2457

เรือ “เอส เอส มิวเร็กซ์” เรือบรรทุกน้ำมันลำแรกของโลกเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 23 กันยายน 2435
เรือ “เอส เอส มิวเร็กซ์” เรือบรรทุกน้ำมันลำแรกของโลกเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 23 กันยายน 2435

พ.ศ. 2435 – สองพี่น้องซามูเอลได้ปฏิวัติการขนส่งน้ำมัน เมื่อ “มิวเร็กซ์” เรือบรรทุกน้ำมันลำแรกของโลกเดินทางมาถึงกรุงเทพฯในวันที่ 23 กันยายนซึ่งนับเป็นการนำเข้าน้ำมันก๊าดครั้งแรกของประเทศเป็นน้ำมันก๊าดตรามงกุฎปริมาณ 1,250 ตัน และในปีเดียวกันพวกเขาได้สร้างคลังน้ำมันแห่งแรกในสยามประเทศคือคลังน้ำมันปากลัด จ. สมุทรปราการ

เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของเชลล์ในประเทศไทย

พ.ศ. 2440 – สองพี่น้องซามูเอลก่อตั้งบริษัทเชลล์ทรานสปอร์ตแอนด์เทรดดิ้งโดยมีตราหอยเป็นสัญลักษณ์บริษัท

พ.ศ. 2446 – บริษัทเชลล์ทรานสปอร์ตแอนด์เทรดดิ้งและบริษัทรอยัลดัชท์ปิโตรเลียมได้รวมกิจการเข้าด้วยกันเพื่อก่อตั้ง บริษัทเอเชียติกปิโตรเลียม ขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทั้ง 2 บริษัทในเอเชีย

พ.ศ. 2457 – สำนักงานแห่งแรกของ บริษัทเอเชียติกปิโตรเลียม (สยาม) จำกัด ถูกก่อตั้งขึ้นในตรอกโอเรียนเต็ลเพื่อการจำหน่ายน้ำมันก๊าดตรามงกุฎในประเทศไทยขณะเดียวกันก็เริ่มสร้างคลังน้ำมันที่บางปะกอกเพื่อเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของบริษัท

พ.ศ. 2458 – 2482

หนึ่งในคลังน้ำมันในต่างจังหวัดที่เชลล์ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2472
หนึ่งในคลังน้ำมันในต่างจังหวัดที่เชลล์ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2472

พ.ศ. 2467 – คลังน้ำมันแห่งใหม่ขนาด 26 ไร่ที่บางปะกอกถูกสร้างเสร็จพร้อมใช้แทนที่คลังน้ำมันปากลัด

พ.ศ. 2471 – บริษัทเอเชียติกปิโตรเลียม (สยาม) จำกัดซื้อที่ดินย่านคลองเตยเพิ่มเติมเนื่องด้วยความจำเป็นในการขยายเครือข่ายการดำเนินงาน จนกระทั่งได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของเชลล์ในปัจจุบัน

พ.ศ. 2472 – บริษัทเอเชียติกปิโตรเลียม (สยาม) จำกัด ได้ย้ายสำนักงานไปที่ ชั้นบนสุดของอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท บอร์เนียว บริเวณบ้านทวาย เขตยานนาวา พร้อมกับเริ่มสร้างคลังน้ำมันในต่างจังหวัด ได้แก่ โคราช เชียงใหม่ แพร่ สุราษฎร์ธานี ลำปาง และ พิษณุโลก.

พ.ศ. 2482 – เนื่องจากสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การดำเนินกิจการของบริษัทต่างชาติหยุดชะงักไม่เว้นแม้แต่ บริษัทเอเซียติกปิโตรเลียม (สยาม) จำกัด ที่ต้องปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2482 จนกระทั่งสงครามสิ้นสุดลง

พ.ศ. 2483 – 2501

คลังน้ำมันเชลล์ฯ ในจังหวัดลำปาง
คลังน้ำมันเชลล์ฯ ในจังหวัดลำปาง

พ.ศ. 2489 – เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงเชลล์ได้กลับเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยอีกครั้งตามคำเชิญของรัฐบาลและได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด มีบริษัทเชลล์โอเวอร์ซีส์โฮลดิ้งส์จำกัดเป็นผู้ถือหุ้น 100% โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่มุมถนนสุรวงศ์

พ.ศ. 2491 – เชลล์สร้างคลังน้ำมันและถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณคลองเตย ซึ่งได้มีการพัฒนาขยับขยายจนกลายเป็นคลังน้ำมันช่องนนทรีในปัจจุบัน

พ.ศ. 2492 – เชลล์เสนอผลิตภัณฑ์ “เชลล์เอ็กซ์ 100” ซึ่งเป็นน้ำมันเครื่องที่มีสารผสมเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรกทำให้เชลล์เริ่มมีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์

พ.ศ. 2497 – เชลล์แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “น้ำมันเบนซินผสมสารไอซีเอ” ออกสู่ตลาดซึ่งช่วยในการรักษาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้สะอาด

พ.ศ. 2501 – เชลล์แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “ซุปเปอร์เชลล์” ออกสู่ตลาดและได้นำแก๊สหุงต้ม “บิวทาแก๊ส” เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย

พ.ศ. 2502 –2516

รายการโทรทัศน์ “เชลล์ควิซ” ได้เริ่มออกอากาศในปี พ.ศ. 2508
รายการโทรทัศน์ “เชลล์ควิซ” ได้เริ่มออกอากาศในปี พ.ศ. 2508

พ.ศ. 2502 – เชลล์ได้นำเข้า “ก๊าซ LPG” สู่ตลาดประเทศไทย

พ.ศ. 2508 – “เชลล์ควิซ”รายการโทรทัศน์สนับสนุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษรวมถึงทดสอบทักษะความรู้ในสาขาวิชาต่างๆสำหรับเยาวชนที่มีระยะเวลาแพร่ภาพทั้งสิ้น 44 ปี ซึ่งเป็นรายการที่แพร่ภาพยาวนานที่สุดในประเทศไทย

พ.ศ. 2515 – เชลล์เริ่มจำหน่ายน้ำมัน “ซุปเปอร์เชลล์ผสมเอเอสดี” ผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดอยู่เสมอ

พ.ศ. 2516 – เชลล์ได้นำน้ำมันเครื่อง “เชลล์ซูเปอร์ใหม่ (20W/50)” ออกสู่ตลาดด้วยกิจการที่ขยายตัวอย่างกว้างขวางทำให้มีการโยกย้ายที่ทำการอีกครั้งไปยังบริเวณถนนวิทยุ

เชลล์ จากปี พ.ศ. 2517 ถึง พ.ศ. 2563

พ.ศ. 2517 – 2525

“อาคารเชลล์” ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525
“อาคารเชลล์” ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525

พ.ศ. 2519 – เปิดตัวน้ำมันเครื่องใหม่ 2 ชนิดคือ “โรเทลล่าเอสเอ็กซ์” และ “เชลล์ริมูล่าซีที” สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลออกสู่ตลาด

พ.ศ. 2522 – เชลล์จัดตั้งบริษัทไทยเชลล์เอ็กซ์พลอเรชั่นอนด์โปรดักชั่นจำกัดขึ้นมาเพื่อดำเนินการสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย

พ.ศ. 2524 – แหล่งน้ำมันในเชิงพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทยถูกค้นพบที่อำเภอลานกระบือจังหวัดกำแพงเพชร และได้รับพระราชทานนามว่า “แหล่งน้ำมันสิริกิติ์”

พ.ศ. 2525 – เมื่อ “อาคารเชลล์” ที่ถนนสุนทรโกษาคลองเตยสร้างแล้วเสร็จเชลล์จึงได้ย้ายสำนักงานใหญ่อีกครั้งและใช้อาคารเชลล์เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยจำกัดรวมถึงบริษัทในเครือ

พ.ศ. 2526 – 2535

เชลล์ ได้เป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง (ตราครุฑ) จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2533
เชลล์ ได้เป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง (ตราครุฑ) จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 17 สิงหาคม 2533

พ.ศ. 2529 – เชลล์ เปิดตัวน้ำมันเครื่อง “เชลล์เฮลิกส์” ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของการทำงานซึ่งถือเป็นวิวัฒนาการใหม่ของวงการน้ำมันเครื่อง ซึ่งนับเป็นผลจากการวิจัยขั้นสูงและการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นมาเป็นเวลากว่า 2 ปี

พ.ศ. 2533 – วันที่ 17 สิงหาคม 2533 บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยจำกัดได้เป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานตราตั้งห้าง (ตราครุฑ) จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องจากการดำเนินงานที่มุ่งมั่นในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพรวมถึงการทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ อยู่เสมอ

พ.ศ. 2535 – เชลล์เป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบรับรองคุณภาพการผลิตมอก. ISO 9002 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและในปีเดียวกันเชลล์ได้จัดตั้งบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยองจำกัดเป็นโรงกลั่นน้ำมันแห่งที่ 4 ของประเทศตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

พ.ศ. 2536 – 2555

เชลล์ ได้เริ่มจัดกิจกรรม “เชลล์ อีโค-มาราธอน” ในปี พ.ศ. 2553
เชลล์ ได้เริ่มจัดกิจกรรม “เชลล์ อีโค-มาราธอน” ในปี พ.ศ. 2553

พ.ศ. 2545 – เชลล์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เชลล์เพียวร่าดีเซล” น้ำมันดีเซลกึ่งสังเคราะห์

พ.ศ. 2550 – เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เชลล์ วี-เพาเวอร์ดีเซล” โดยใช้เทคโนโลยี Gas to Liquid ซึ่งผลิตขึ้นที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเอเชีย

พ.ศ. 2552 – เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เชลล์ วี-เพาเวอร์” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากการทดลองใช้กับรถเฟอร์รารี่ในสนามแข่งสู่การใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคลบนท้องถนน

พ.ศ. 2553 – กิจกรรม “เชลล์ อีโค-มาราธอน” เพื่อยกระดับการศึกษาเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาสามารถประดิษฐ์ยานพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแข่งขัน

พ.ศ. 2555 – ผลิตภัณฑ์ใหม่ “เชลล์ วี-เพาเวอร์ไนโตร +” และเปิดตัวแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟน “Shell Motorist” เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการเชลล์

พ.ศ. 2556 – 2563

เชลล์ ได้เปิดตัวเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ที่ใช้ในน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2560
เชลล์ ได้เปิดตัวเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ที่ใช้ในน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2560

พ.ศ. 2558 – กิจกรรม “วันเชลล์เติมสุข” คุณเติม 1 ลิตรเชลล์บริจาค 1 บาท ด้วยการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใดก็ได้ ณ สถานีบริการน้ำมันเชลล์เพื่อนำเงินไปบริจาคให้โรงเรียนมีชัยพัฒนาในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและทักษะอาชีพสำหรับนักเรียนผู้สมควรได้รับโอกาสและบกพร่องทางร่างกายและการเคลื่อนไหว

พ.ศ. 2559 – เปิดตัว LINE Official Accounts พร้อมสติ๊กเกอร์ไลน์ของเชลล์เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

พ.ศ. 2560 – เปิดตัวน้ำมันสูตรใหม่ที่ดีที่สุดของเชลล์ด้วยเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” นวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดที่ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดรวมถึง เชลล์ วี-เพาเวอร์ น้ำมันที่ดีที่สุดของเชลล์ดีขึ้นไปอีกขั้น

พ.ศ. 2560 – ครบรอบ 125 ปี แห่งการดำเนินธุรกิจของบริษัทเชลล์ในประเทศไทย 125 ปีแห่งการเติมสุขให้ทุกชีวิตคนไทย

พ.ศ. 2561 – เปิดตัวเชลล์เฮลิกส์อัลตร้า 0W-20 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทย

พ.ศ. 2562 – สานต่อ เชลล์ชวนชิม ครบรอบ 58 ปี เดินหน้าการันตีความอร่อยทั่วไทย

พ.ศ. 2563 – เปิดตัว เชลล์ ฟิวเซฟ ดีเซล บี10 สูตรใหม่ สนับสนุนนโยบายรัฐ ช่วยเหลือเกษตรกรปาล์มน้ำมัน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา

ผู้นำ

อ่านประวัติของผู้นำระดับอาวุโสของเราในประเทศไทย

เราเป็นใคร

เชลล์เป็นบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีระดับนานาชาติที่มีพนักงานกว่า 93,000 คน และดำเนินธุรกิจในกว่า 70 ประเทศ เราใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยให้โลกมีอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืน