โครงสร้างของเครื่องยนต์: อาหารที่เครื่องยนต์ต้องการ

Glenn Wilson

วิศวกรรถยนต์ที่มีประสบการณ์มากกว่า 35 ปี เขาคือส่วนหนึ่งของทีมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และรถยนต์ของเชลล์ และทำงานกับน้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ วี-พาวเวอร์ ตั้งแต่วันแรกของการพัฒนา

เช่นเดียวกับคุณ และผมที่ต้องการ "5 มื้อต่อวัน" เพื่อต้องการสุขภาพที่ดี เครื่องยนต์รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ของคุณก็ต้องการอาหารที่ดีเช่นเดียวกัน

Glenn Wilson วิศวกรรถยนต์ผู้ซึ่งทำงานที่เชลล์มามากกว่า 25 ปี ประสบการณ์ที่มากมายของเขาทำให้เขารู้เกี่ยวกับสารอาหารที่เครื่องยนต์ต้องการ และเขารู้ส่วนประกอบของอาหารที่เครื่องยนต์เหล่านั้นต้องการ

หัวใจหลักในการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเราคือทำความเข้าใจสิ่งที่ถูกต้องกับหัวใจหลักของเครื่องยนต์: นั่นคือ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิง และชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ คุณต้องการให้รถของคุณทำงานได้ดี และการเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีบทบาทสำคัญ

เชลล์ วี-พาวเวอร์ ไนโตร พลัส ทำงานอย่างไร เราถาม Glenn เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆ ของเครื่องยนต์

ห้องเผาไหม้

หัวใจและปอดของเครื่องยนต์ ที่ที่อากาศถูกดูดรวมกับน้ำมันเชื้อเพลิง ก่อนที่จะถูกอัดและเกิดระเบิด และถูกปล่อยออก ซึ่งเรียกว่าวัฏจักรออตโต 4 จังหวะ

ในเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน หัวเทียนเริ่มจุดระเบิดให้การเผาไหม้ ซึ่งทำให้เกิดพลังงานทำให้ลูกสูบหมุนเคลื่อนลง อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาวะแรงดัน และอุณหภูมิสูงเช่นนี้ น้ำมันเชื้อเพลิงบางชนิดสามารถเกิดการลุกไหม้ได้เอง ซึ่งจะส่งผลให้เกิด 'การน็อค' หรือเสียงจากการเผาไหม้ ซึ่งเกิดจากการจุดระเบิดขึ้นเอง ผลคือ เครื่องยนต์จะได้รับความเสียหาย และในกรณีที่รุนแรงจะทำลายชิ้นส่วนต่างๆ อย่างถาวร ระดับค่าออคเทนในน้ำมันเบนซินเป็นตัววัดว่าน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถต้านทานการน๊อคได้ดีเพียงไร

"จังหวะเวลาการระเบิด มีความสำคัญในการถ่ายโอนพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงไปสู่เครื่องยนต์ ค่าออคเทนสูงที่มีคุณภาพทำให้เกิดการจุดระเบิดอย่างเหมาะสม ทำให้ลูกสูบเคลื่อนตัวลงอย่างมีประสิทธิภาพและยาวนานขึ้น" Wilson กล่าว

แหวนลูกสูบ

แหวนลูกสูบ ออกแบบมาเพื่ออยู่ระหว่างลูกสูบ และผนังกระบอกสูบ เคลื่อนที่ขึ้น และลงหลายพันครั้งต่อนาที

"ภายในเครื่องยนต์คือสถานที่ที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดสูงสุด และจุดล่างสุดของจังหวะ ที่ที่ความเร็วของลูกสูบเป็นศูนย์ เป็นการยากที่จะรักษาระดับการหล่อลื่น และแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบ" Wilson กล่าว

ทำการหล่อลื่นพื้นผิวสัมผัสระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ได้ยาก  แหวนจะต้องแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันหล่อลื่นเข้าไปในพื้นที่เผาไหม้ ซึ่งอาจทำให้เกิดไอเสียมากขึ้น และป้องกันก๊าซจากการเผาไหม้เข้าสู่อ่างน้ำมันเครื่อง

นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษของเชลล์ เทคโนโลยี: " เชลล์ วี-พาวเวอร์ ไนโตร พลัส ประกอบด้วย Friction Modification Technology (FMT) ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานในพื้นที่หลักของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชิ้นส่วนลูกสูบ ด้วยวิธีการนี้ จะช่วยให้เครื่องยนต์เคลื่อนที่อย่างอิสระ ปลดปล่อยพลังงานมากขึ้น เพิ่มอัตราเร่ง และพลังงาน นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่ได้จากความร่วมมือทางเทคนิคกับ สคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าของเชลล์"