คำว่าเชลล์ปรากฏเป็นครั้งแรกในปี 1891 ในฐานะเครื่องหมายการค้าน้ำมันก๊าดที่มาร์คัส ซามูเอลและบริษัทขนส่งไปยังดินแดนตะวันออกไกล ธุรกิจเล็ก ๆ ในกรุงลอนดอนนี้เริ่มต้นจากการจำหน่ายวัตถุโบราณ ของหายาก และเปลือกหอยจากโลกตะวันออก สินค้าเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะผู้คนในสมัยวิกตอเรียนำมาใช้ตกแต่งกล่องใส่ของมีค่า ไม่นานสินค้าเหล่านี้กลายเป็นสินค้าพื้นฐานในการนำเข้าและส่งออกสินค้ากับตะวันออกไกลซึ่งทำผลกำไรให้บริษัท

คำว่าเชลล์ได้รับการยกสถานะเป็นบริษัทในปี 1897 เมื่อซามูเอลก่อตั้งบริษัท เชลล์ ทรานสปอร์ต แอนด์ เทรดดิ้ง คอมปะนีขึ้น โลโก้แรกในปี 1901 เป็นหอยแมลงภู่ แต่ในปี 1904 มีการนำโลโก้รูปหอยพัดหรือหอยเชลล์มาใช้เพื่อสื่อถึงองค์กรและชื่อของแบรนด์

เมื่อบริษัท รอยัล ดัตช์ ปิโตรเลียม และบริษัทเชลล์ ทรานสปอร์ต แอนด์ เทรดดิ้ง คอมปะนี ได้ควบรวมกิจการเข้าด้วยกันในปี 1907 แบรนด์และสัญลักษณ์ของบริษัทเชลล์ ทรานสปอร์ต แอนด์ เทรดดิ้ง คอมปะนี (เชลล์และเปลือกหอย) จึงกลายเป็นชื่อย่อและสัญลักษณ์ใหม่ของกลุ่มบริษัท รอยัล ดัตช์ เชลล์ ซึ่งชื่อและสัญลักษณ์ดังกล่าวก็คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สัญลักษณ์เปลือกหอยเชลล์มีการเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างช้า ๆ ตามเทรนด์ด้านการออกแบบกราฟิก สัญลักษณ์ที่ใช้ในปัจจุบันนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1971 และสามสิบปีที่ผ่านมา สัญลักษณ์ดังกล่าวได้ยืนหยัดผ่านการทดสอบของเวลาและกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก

เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของเราใน[country]

เสียงของเชลล์

ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 เชลล์ได้ใช้ดนตรีในการสื่อสารด้วยภาพและเสียง รวมทั้งความร่วมมือกับนักร้องบิง ครอสบี้ และแซมมี่ เดวิส จูเนียร์ จากการทำงานร่วมกับผู้ผลิตภาพยนตร์และผู้ประพันธ์เพลงประกอบโทรทัศน์อังกฤษชื่อทอม โฮว์ในปี 2015 เพื่อเปิดตัวบทเพลง “เสียงของเชลล์” ดนตรีซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางเสียงที่สื่อถึงคุณค่าและพลังงานของแบรนด์เชลล์ในฐานะบริษัททันสมัยที่สร้างสรรค์นวัตกรรมมาช่วยสร้างอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืน

ผลลัพธ์ที่ได้คือดนตรีออร์เคสตราความยาวสามนาทีและเพลงกว่า 50 รูปแบบที่มีแนวดนตรีและสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ละเพลงจะมีทำนองหลักที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่กีตาร์ไฟฟ้าที่ให้เสียงเร้าใจ จนไปถึงบทเพลงดัดแปลงแบบไทยและตุรกี ทำนองเพลงแบบที่สั้นที่สุดคือนีโมนิคความยาวสองวินาทีหรือท่วงทำนองหลัก ตัวอย่างเช่น ทำนองที่มาพร้อมกับโลโก้สัญลักษณ์เปลือกหอยในตอนท้ายภาพยนตร์ของเชลล์ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เราต้องการให้คนจดจำท่วงทำนองดังกล่าวได้ทันทีเช่นเดียวกับสัญลักษณ์หอยเชลล์ 

ฟังท่วงทำนองความยาว 2 วินาที

ชมหนังสั้นเบื้องหลังการสร้างบทเพลงเสียงของเชลล์

โครงการ #makethefuture

ด้วยโครงการ #makethefuture เราได้ถามคำถามที่กล้าหาญกับผู้คนทั่วโลกว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความคิดของคุณอาจช่วยตอบโจทย์ความท้าทายด้านพลังงานของโลกได้

เป้าหมายของโครงการคือการปลดล็อกความสามารถทางวิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณสร้างสรรค์ของผู้คนและสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาเข้าร่วมโครงการเชิงนวัตกรรม ตัวอย่างเช่น Shell Ideas360 และ Shell Eco-marathon สำหรับนักศึกษา Shell LiveWIRE สำหรับผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ และ Shell GameChanger สำหรับนักสร้างนวัตกรรมที่มีประสบการณ์

ปัจจุบัน โลกต้องการนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี วิศวกร และนักคณิตศาสตร์ มากขึ้นกว่าที่เคยเพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านพลังงานของโลก

ความก้าวหน้าที่ขับเคลื่อนจากรุ่นสู่รุ่น

โครงการ #makethefuture ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ผลักดันความก้าวหน้าของมนุษย์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ลอเรนซ์ เคมบอลล์-คุก ที่นำแนวคิดทรงประสิทธิภาพมาใช้ในโครงการ Shell LiveWIRE เพื่อปรับปรุงสนามฟุตบอลที่ทรุดโทรมในชุมชนมอร์โร ดา มิเนียร่า ซึ่งเป็นสลัมในเมืองรีโอเดจาเนโร

ใต้พื้นผิวสนาม เราได้ปูกระเบื้องคิเนติกที่พัฒนาโดยลอเรนซ์จำนวน 200 แผ่น กระเบื้องเหล่านี้จับพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของผู้เล่นและนำมารวมกับพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ ตอนนี้ชาวบ้านจึงมีแหล่งผลิตไฟฟ้าทดแทนได้บางส่วน ซึ่งจะเป็นพลังงานสำหรับไฟส่องสนาม

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ #makethefuture

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา

เราเป็นใคร

เชลล์เป็นบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีระดับนานาชาติที่มีพนักงานกว่า 93,000 คน และดำเนินธุรกิจในกว่า 70 ประเทศ เราใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยให้โลกมีอนาคตด้านพลังงานที่ยั่งยืน

สิ่งที่เราทำ

เชลล์เป็นบริษัทพลังงานระดับนานาชาติที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงานจากทั่วโลกที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งรวมถึงความต้องการพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น โดยดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม

นอกจากนี้คุณยังอาจสนใจ

พลังงานในอนาคต

เราใช้ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อส่งมอบพลังงานที่สะอาดและมีปริมาณมากขึ้นให้กับประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

Make the future

#MakeTheFuture showcases the on-going actions Shell is taking to help create this more sustainable energy-rich, lower carbon future.